มากมายหลายคนที่มีความงุนงงและสับสนในเรื่องของ AI, Machine Learning และ Deep Learning ว่ามันคือสิ่งเดียวกันหรือไม่ ผมเลยหาบทความที่สามารถบอกเราได้มาให้อ่านกันทั้งไทยและอังกฤษตามสะดวก ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกแห่งด้วยครับ โดยอย่างแรกที่เราต้องรู้ให้ได้ก่อนคือ "อะไร"เป็นสิ่งที่เรียกกันว่ามันคือความฉลาดของมนุษย์..."Intelligence can be generally described as the ability to perceive information, and retain it as knowledge to be applied towards adaptive behaviors within an environment or context."-Wikipedia
https://www.youtube.com/watch?reload=9&v=45c--4XxGZs
https://blogs.oracle.com/bigdata/differ ... p-learning
https://medium.com/@athivvat/artificial ... a8aa6f56f0
https://techsauce.co/tech-and-biz/ai-ma ... fferences/
https://ahead.asia/2018/05/17/ai-machin ... rning-101/
คำอธิบายปัญญาประดิษฐ์จาก Wikipedia (ภาษาไทย)
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B ... 0%E0%B9%8C
การแบ่งระดับความฉลาดของ “AI”
https://medium.com/@athivvat/%E0%B8%81% ... d5cb1aa84c
วิดีโอของ Nick Bostrom จาก TED (มีแปลไทย)
...ระบบปัญญาประดิษฐ์กำลังพัฒนาความฉลาดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ผลการวิจัยระบุว่า ภายในศตวรรษนี้ ระบบปัญญาประดิษฐ์จะมีความ "ฉลาด" เทียบเท่ามนุษย์ และนิค บอสตรอมได้กล่าวไว้ว่า เมื่อนั้น มันจะแซงหน้ามนุษยชาติไป "ความฉลาดของเครื่องจักร จะเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดท้าย ที่มนุษยชาติจำเป็นต้องพัฒนาขึ้น" บอสตรอม ซึ่งเป็นทั้งนักเทคโนโลยีและนักปรัชญา ได้เรียกร้องให้พวกเราคิดอย่างจริงจังถึงโลกที่เรากำลังสร้างอยู่ในขณะนี้ โลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องจักรที่คิดเป็น จักรกลอัจฉริยะเหล่านั้น จะดำรงรักษามนุษยชาติและคุณค่าต่างๆ ของพวกเราไว้ หรือมันจะสร้างคุณค่าของพวกมันเอง?
https://www.ted.com/talks/nick_bostrom_ ... rrshorturl
What's the Difference Between AI, Machine Learning, and Deep Learning?
What's the Difference Between AI, Machine Learning, and Deep Learning?
Last edited by porndusit on 25 Oct 2019, 23:25, edited 9 times in total.
I used Machine Learning to hack baseball
เป็นคลิปที่แสดงให้เห็นว่าเราสามารถล้วงความลับการส่งสัญญาณมือในการเล่นเบสบอลโดยใช้ Machine Learning ได้อย่างไร โดย Mark Rober เป็นทั้งวิศวกรชาวอเมริกันเคยทำงานอยู่ที่ NASA เป็นนักประดิษฐ์ และเจ้าของช่องยูทูปของตัวเอง
https://www.youtube.com/watch?v=PmlRbfSavbI&t=289s
https://www.youtube.com/watch?v=PmlRbfSavbI&t=289s
Using AI to make pictures 'better'
เราสามารถนำ A.I. มาช่วยในการ Upscale รูปแต่ยังคงความชัดเจนไว้ หรือเพิ่มความชัดให้กับภาพในวิดีโอได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้เป็นที่ต้องการของคนที่ใช้ photoshop อย่างยิ่ง หรือในโปรแกรม third-party ทั้งหลายโดยทั้งหมดยังคงใช้วิธีทางการคำนวณโดยเขียน algorithm ขึ้นมา ลองคิดดูถ้านำคุณสมบัตินี้มาใช้ในสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปทำให้ใครๆก็ถ่ายภาพไห้คมชัดได้ แต่มือโปรจะชอบหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้
https://www.youtube.com/watch?v=rl1pbEG2kgA
https://www.youtube.com/watch?v=rl1pbEG2kgA
Machine Learning: Living in the Age of AI
วิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวันที่เราอยู่ในยุค A.I. รวมไปถึงการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆจากนักพัฒนา และมีทั้งเด็กๆรวมไปถึงผู้สูงอายุที่สามารถใช้ประโยชน์จากมันด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=ZJixNvx9BAc
https://www.youtube.com/watch?v=ZJixNvx9BAc
AI Learns to Park - Deep Reinforcement Learning
ให้ดูจำนวนครั้งที่เริ่มใหม่แล้วลองคิดเทียบกับสมองคนจริงๆ นี่คือสิ่งที่เราพยายามใส่ในสมาร์ทคาร์ในปัจจุบัน
https://www.youtube.com/watch?v=VMp6pq6_QjI
https://www.youtube.com/watch?v=VMp6pq6_QjI
Last edited by porndusit on 16 Oct 2019, 10:58, edited 1 time in total.
ฟอร์ติเน็ตคาดภัยไซเบอร์ปี 2020 จัดเต็มเทคโนใหม่ โดยแห่โจมตีทุกรูปแบบในปริมาณมาก คาดหวังใช้ AI เข้ามาช่วยป้องกัน
19 ธ.ค. 2562 18:23 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
Global Security Strategist, Fortinet ระบุว่าจากงานวิจัยล่าสุดที่เกี่ยวกับแนวโน้มของอาชญากรรมไซเบอร์ พบว่าการมองในภาพรวมและคาดการณ์นี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากชุมชนอาชญากรไซเบอร์ประสบความสำเร็จในการคุกคาม โดยอาศัยทำนายการตัดสินใจของเหยื่อที่แม่นยำมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเครือข่ายมากขึ้น จึงพบภัยคุกคามมากขึ้น "อาชญากรไซเบอร์ใช้กลยุทธ์ “โจมตีในทุกรูปแบบ” ในการโจมตีของพวกเขา เราจึงเห็นการพัฒนาวิธีการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น เราได้เห็นการใช้เทคนิคการหลบหลีกขั้นสูง (Advanced Evasion Techniques: AETs) เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เทคนิคยอดนิยมดังกล่าวนี้ออกแบบมาโดยความตั้งใจให้สามารถป้องกันการตรวจจับ อีกทั้งยังสามารถปิดฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์ได้ สามารถปฏิบัติงานได้โดยไม่ถูกตรวจพบอีกด้วย"...
...เทคโนโลยีเอไอ (Artificial Intelligence: AI) เป็นหนึ่งในความหวังที่ดีที่สุดในการช่วยองค์กรเผชิญกับปัญหาภัยคุกคามใหม่ๆ นี้ได้ โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันแบบปรับตัวได้เองสำหรับเครือข่าย คล้ายกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ ซึ่งในร่างกายของเรา จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จะเข้ามาช่วยเหลือเมื่อตรวจพบปัญหาโดยอัตโนมัติ เพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ ในขณะที่ยังจะส่งข้อมูลกลับไปที่สมองเพื่อการประมวลผลที่มากขึ้น เช่น การจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมหรือจดจำการใช้ยาปฏิชีวนะ เมื่อเอไอพัฒนาจากรูปแบบปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการกรองข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหา มันจะสามารถทำงานได้มากขึ้นคล้ายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์หรือเครือข่ายระบบประสาท เอไอจะทำงานอยู่บนโหนดที่มีการเรียนรู้ ติดตั้งใช้งานเป็นส่วนๆ หรือระดับภูมิภาค และมีการเชื่อมต่อระหว่างกัน จึงสามารถรวบรวมข้อมูลในส่วนหรือภูมิภาคนั้น แล้วจึงมาแบ่งปัน เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นแบบกระจาย (Distributed manner)...
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9620000121145
Global Security Strategist, Fortinet ระบุว่าจากงานวิจัยล่าสุดที่เกี่ยวกับแนวโน้มของอาชญากรรมไซเบอร์ พบว่าการมองในภาพรวมและคาดการณ์นี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากชุมชนอาชญากรไซเบอร์ประสบความสำเร็จในการคุกคาม โดยอาศัยทำนายการตัดสินใจของเหยื่อที่แม่นยำมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเครือข่ายมากขึ้น จึงพบภัยคุกคามมากขึ้น "อาชญากรไซเบอร์ใช้กลยุทธ์ “โจมตีในทุกรูปแบบ” ในการโจมตีของพวกเขา เราจึงเห็นการพัฒนาวิธีการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น เราได้เห็นการใช้เทคนิคการหลบหลีกขั้นสูง (Advanced Evasion Techniques: AETs) เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เทคนิคยอดนิยมดังกล่าวนี้ออกแบบมาโดยความตั้งใจให้สามารถป้องกันการตรวจจับ อีกทั้งยังสามารถปิดฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์ได้ สามารถปฏิบัติงานได้โดยไม่ถูกตรวจพบอีกด้วย"...
...เทคโนโลยีเอไอ (Artificial Intelligence: AI) เป็นหนึ่งในความหวังที่ดีที่สุดในการช่วยองค์กรเผชิญกับปัญหาภัยคุกคามใหม่ๆ นี้ได้ โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันแบบปรับตัวได้เองสำหรับเครือข่าย คล้ายกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ ซึ่งในร่างกายของเรา จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จะเข้ามาช่วยเหลือเมื่อตรวจพบปัญหาโดยอัตโนมัติ เพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ ในขณะที่ยังจะส่งข้อมูลกลับไปที่สมองเพื่อการประมวลผลที่มากขึ้น เช่น การจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมหรือจดจำการใช้ยาปฏิชีวนะ เมื่อเอไอพัฒนาจากรูปแบบปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการกรองข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหา มันจะสามารถทำงานได้มากขึ้นคล้ายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์หรือเครือข่ายระบบประสาท เอไอจะทำงานอยู่บนโหนดที่มีการเรียนรู้ ติดตั้งใช้งานเป็นส่วนๆ หรือระดับภูมิภาค และมีการเชื่อมต่อระหว่างกัน จึงสามารถรวบรวมข้อมูลในส่วนหรือภูมิภาคนั้น แล้วจึงมาแบ่งปัน เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นแบบกระจาย (Distributed manner)...
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9620000121145