Thai3d Interview – Chalermyos Thiengchanya
*ภาพประกอบทั้งหมดในบทความนี้ สามารถคลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ โดยภาพจะเปิดขึ้นมาในหน้าต่างใหม่ 😀
ชื่อ [ อังกฤษ ] : Chalermyos Thiengchanya
ชื่อ [ ญี่ปุ่น ] : チャラームヨッス • ティエンチャンヤー
ชื่อ [ ไทย ] : เฉลิมยศ เที่ยงจรรยา
ชื่อเล่น : Paepe / ぺーぺー / เปเป้
การศึกษา : สาขาวิศวกรรมเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)
ประวัติการทำงาน :
- Paepe.com (3D artist , Multimedia designer , Programmer)
- Bandai Co., Ltd. (3D modeling , Lighting artist)
- Capcom Co., Ltd. (3D modeling , 3D environment)
- JAXA organization (3D modeling , 3D simulation)
- University of Tokyo (3D real-time holography researcher)
- อาจารย์และวิทยากรพิเศษ อบรมด้านการออกแบบ 3D computer graphic ให้แก่ บริษัท / องค์กร / มหาวิทยาลัย ของรัฐบาลและเอกชนทั้งภายในไทยและต่างประเทศ
โปรแกรม :
- Model – Autodesk 3ds Max 2012 , Zbrush 4R7
- Texture – Photoshop CS6 , Illustrator CS6
- Render – Unreal engine , V-Ray , Mental-Ray
- Effect – After Effect CS5 , Nuke
คอมพิวเตอร์ :
- [ Alienware ] steam machine workstation
- CPU – Core i7 Processor Quad-Core @ 3.2 GHz
- VGA – NVIDIA GeForce GTX GPU 2GB GDDR5
- RAM – 8 GB memory
เริ่มต้นกับ 3D ได้อย่างไร ? :
ผมเริ่มต้นจากการชอบดูภาพยนตร์แนวไซไฟ (sci-fi) เช่น ID4 , Armageddon , Star trek รวมถึงชอบเล่นเกมส์แนว RPG เช่น Bio Hazard , Devil May Cry จึงเกิดแรงบันดาลใจที่อยากสร้างสรรค์ผลงานทางด้าน 3D computer graphic ครับ เนื่องจากจุดเด่นและเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของการออกแบบกราฟิคเชิง 3 มิติ (3D digital art) คือ … “ เราสามารถเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจินตนาการของเรา … ให้เกิดขึ้นจริงในโลกเสมือน (virtual world) ครับ “
หลังจากนั้นจึงเริ่มต้นโดยการไปเรียนคอร์ส 3D animation กับ อ.เบิ้ล (ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Thai3d.net) นี่ละครับ 555 ยอมรับว่าเรียนจบคอร์สในครั้งแรก บอกเลยว่า ยากมาก!! เพราะการออกแบบกราฟิคเชิง 3 มิติ มีขั้นตอน , วิธีการ , เทคนิค ที่เยอะมากครับ ต่างจากการออกแบบกราฟิคเชิง 2 มิติอย่างสิ้นเชิง ต่อมาผมจึงไปลงเรียนซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จึงทำให้คุ้นเคยกับการใช้งานโปรแกรมออกแบบเชิง 3 มิติมากขึ้นครับ หลังจากนั้นผมจึงกลับมาฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะและฝีมือให้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการตระเวนเรียนการออกแบบกราฟิคเชิง 3 มิติในสาขา 3D character , 3D sculpture , 3D architecture , 3D VFX จากสถาบันต่างๆ ประกอบด้วยหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาวทั้งในไทยและต่างประเทศครับ ซึ่งใช้เวลาในการบ่มเพาะทักษะฝีมือทั้งหมด 4 ปีเต็มครับ
จากนั้นจึงเริ่มการออกแบบกราฟิค 3D ชื่อผลงาน “Future Bangkok” เป็นงานแนว Sci-fi ใช้ระยะเวลาสร้างผลงานทั้งหมด 2 เดือนเต็มครับ เพื่อส่งประกวดรายการ CRECON ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นการประกวดทางด้าน Computer Graphic รายการสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีของประเทศญี่ปุ่นครับ โดยผมตั้งใจว่าหากผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งคงจะเป็นใบเบิกทางที่ดีในการสร้างโอกาสในการเข้าทำงานกับบริษัท เกมส์ / แอนิเมชัน ของญี่ปุ่นในอนาคตครับ โชคดีที่สวรรค์มีตา จากการประกวดในครั้งนั้นผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัล CRECON’13 Selection Awards ซึ่งทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมทำงานกับบริษัทเกมส์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น อาทิเช่น Bandai , Capcom และเป็น Outsource ให้กับบริษัทผลิต เกมส์ / แอนิเมชัน / โฆษณา ของประเทศญี่ปุ่น / เกาหลีใต้ / สหรัฐอเมริกา ครับ
ข้อคิดในการทำงาน :
การออกแบบกราฟิคเชิง 3 มิติ สำหรับผมแล้ว คือ ศิลปะระดับสูงแขนงหนึ่ง เนื่องจากต้องอาศัยทักษะ , ฝีมือ , ประสบการณ์ , ความชำนาญ เป็นอย่างมากเพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลงาน 3D computer graphic ให้ออกมาสวยงามและมีคุณภาพครับ โดยจำเป็นต้องบูรณาการองค์ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์จากหลายแขนงเข้าด้วยกัน อาทิเช่น
- การออกแบบกราฟิคเชิง 2 มิติ
- การสเก็ตช์ภาพ (sketch) / การวาดภาพ (draw)
- การปั้น (sculpt) / การเข้าใจสรีรวิทยาของมนุษย์และสัตว์
- เทคนิคพิเศษต่างๆ (virtual effect)
- การซ้อนภาพ (composite) / การตัดต่อภาพในเชิง 3 มิติ
- การ animate โมเดล (rigging)
- การจัดแสง (lighting compose)
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการที่จะเป็นมืออาชีพทำงานในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ 3D computer graphic มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญ คือ “ต้องลงมือฝึกฝนฝีมือให้เกิดความชำนาญครับ” ในโลกแห่งความเป็นจริง งานทางด้าน 3D computer graphic เป็นที่ต้องการมากในโลกยุคปัจจุบัน ที่สำคัญรายได้สูง (มาก) ครับ หากทำงานในต่างประเทศ ค่าตอบแทนจะมากกว่า 1 แสนบาทหรือมากกว่านั้นครับ แต่ทั้งนี้การแข่งขันก็สูงมากเช่นเดียวกันครับ แต่ทั้งนี้หากผู้ใดมีวิทยายุทธ์ที่กล้าแกร่งก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีงานทำครับ เพราะงานจะเข้ามาหาเองครับ
[ สำคัญที่สุด ] พยายามสร้างสรรค์ผลงาน 3D ที่มีคุณภาพ หรือ มีคุณค่า เก็บเอาไว้เป็น Portfolio ของตัวเองครับ โดยคำว่า “ผลงานที่มีคุณค่า” สำหรับผมแล้ว หมายถึง “ผลงานที่ใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างสรรค์” ซึ่งเมื่อผู้ใดพบเห็นก็จะเข้าใจคำนี้โดยทันทีครับ และช่วยเปิดโอกาสในการถูกเลือกให้ทำงานกับ บริษัท / องค์กร / สถาบัน / มหาวิทยาลัย ในอนาคตครับ … ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
“ผลงานที่เราสร้างสรรค์ขึ้นทั้งหมด จะคงอยู่กับเราไปตลอดชีวิตครับ”